1. เน้นจุดเด่นที่ตรงกับ ความต้องการของลูกค้า นำเสนอจุดเด่นของลูกค้า อย่างเช่น ทรัพย์ราคาต่ำกว่าตลาด มากกว่า 30% ก็สามารถเสนอ ให้กับนักลงทุนหรือถ้า เป็นคอนโดใจกลางเมือง ราคาไม่สูงมาก มี Co-working space อาจจะเสนอให้ First Jobber เพราะเค้าสามารถผ่อนไหว ทำงานร่วมกับเพื่อนได้สบายๆ ไม่ต้องไปหาร้านกาแฟนั่ง มี Co-Kitchen ให้คุณชวนเพื่อน มาทำอาหารกินเอง ที่บ้านได้ง่าย ๆ เป็นต้น
2. ตั้งหัวข้อให้ตรง กับสิ่งที่ลูกค้ามองหา การตั้งชื่อโพส หัวข้อ หรือคำประกาศสำคัญมาก เพราะระบบจะช่วยดันโพส ของเราส่งให้คนเห็นจำนวนมากขึ้น ขอแนะนำให้ตั้งชื่อประกาศ อย่างเป็นระบบง่าย ๆ ดังนี้ ขาย/ให้เช่า + ประเภทอสังหาฯ + ชื่อโครงการ + ทำเล + จุดขาย สูตรนี้ไม่ได้ตายตัวสามารถปรับ ตามความเหมาะสมได้
3. มีคำ Keyword ที่ลูกค้าค้นหาบ่อย การใช้ Keyword หรือ Sale Word ในการเขียน Content จะช่วยให้ค้นเจอประกาศเราได้ง่าย และดึงดูดให้อ่านเนื้อหาโพสต์ ซึ่งเราสามารถหาคำค้นหาบ่อย จากบน google ได้อีกด้วย
4. ผู้ประกาศขายบ้าน มีความน่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณเอง หรือนายหน้า จะต้องดูน่าเชื่อถือ ทั้งการโพสบนเฟสบุ๊ค รูปโปรไฟล์ การลงพื้นที่ ขายทรัพย์ต่างๆ ล้วนมีผล ที่จะทำให้ลูกค้าเชื่อว่า คุณเป็นมืออาชีพ เเละให้ความไว้วางใจหรือไม่
5. ตั้งราคาขายให้เหมาะสม ก่อนอื่นคุณต้องสำรวจราคาตลาด ว่าปกติขายกันอยู่เท่าไหร่ หากคุณจะตั้งราคาสูงกว่า ก็ต้องมีจุดเเตกต่าง หรือข้อดีมากกว่าคนอื่นนั่นเอง เช่น เฟอร์มากกว่า ออกเเบบตามหลักฮวงจุ้ย เป็นต้น
6. ข้อมูลการติดต่อหลายช่องทาง ยุคสมัยนี้ การติดต่อสื่อสาร สามารถมีได้หลายช่องทาง คุณควรที่จะมีให้หลายช่องทาง มากที่สุด เพื่อที่จะได้รองรับพฤติกรรม การติดต่อของลูกค้า ที่เเตกต่างกัน เช่น บางคนถนัดไลน์ บางคนถนัดในเฟสบุ๊ค เป็นต้น
7. นายหน้าตัวช่วยที่สำคัญ ปฎิเสธไม่ได้ว่านายหน้า ก็เป็นช่องทางหนึ่ง ที่ทำให้ขายทรัพย์ได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเป็นนายหน้ามืออาชีพ เค้าจะมีนักลงทุน หรือรู้จักแหล่งซื้อทรัพย์ที่มาก เเละสามารถให้คำแนะนำ ในการเตรียมบ้านก่อนประกาศขาย เช่น การตกแต่ง และการตั้งราคาขาย กรณีบ้านมือสอง นายหน้าสามารถตรวจสอบ จุดบกพร่อง ประเมินบ้าน และให้คำปรึกษาเพื่อปรับปรุง และช่วยให้บ้านขายได้ง่าย ในราคาดีขึ้นอีกด้วย
8. ภาพสวย ดึงดูด ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกได้ การขายบ้าน ก็ต้องทำให้ลูกค้า เกิดอารมณ์อย่างได้ ถึงจะทำให้เกิดการ ปิดการขายที่ง่ายขึ้น ยกตัวอย่าง การขายเฟอร์นิเจอร์ IKEA ที่เค้าจัดเป็นห้องให้เราเห็นภาพ กับ ร้านที่ขายตามข้างทาง วางเรียงอย่างเป็นระเบียบ ถ้าเป็นตัวคุณเอง จะเลือกขายเเบบไหนดีคะ?
9. เลือกช่องทางการขาย ที่เหมาะสมกับทรัพย์ บางเว็บอาจจะเน้นขายคอนโด ให้กับคนต่างชาติเป็นหลัก เเต่บางเว็บเน้นขายบ้าน ให้กับคนไทย ดังนั้นคุณต้องเลือกเว็บ ที่ตรงกับกลุ่มลูกค้าของเราด้วย
10. ทำการบ้านด้วยการ เปรียบเทียบราคาขายใกล้เคียง ก่อนลงประกาศเราต้องเช็คราคาห้อง ว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงไหม ขายถูก-เเพง เกินไปไหม ซึ่งถ้าขายเเพงไปก็จะขายยาก ซึ่งพอเราจะขาย เราต้องกล้าพูดได้ว่า ห้องเราดีกว่าคนอื่นยังไง
11. ใช้ Social Media ในการเพิ่มฐานลูกค้า การเข้าถึงคนจำนวนหลักพัน หลักหมื่นคนในราคา ไม่ถึง 10 บาท/คน ทำได้จริงในโลกออนไลน์ คุณสามารถเลือกได้ว่า คนที่จะให้เห็นอายุเท่าไหร่ เพศอะไร อาชีพ สนใจอะไร เลือกได้ทั้งหมด ซึ่งถ้ามองกลับกัน ถ้าคุณไปเดินเเจกโบชัวร์ ให้คนหมื่นคน จะใช้เวลา ใช้เงินเท่าไหร่ เเละตรงกลุ่มเป้าหมายไหม ดังนั้นวิธีนี้เป็นวิธีที่ประหยัดงบ เเละประสิทธิภาพดีระดับหนึ่งเลย
12. ประเมินผล ถ้าไม่มีคนสนใจต้องปรับตัว ข้อได้เปรียบของการทำการตลาด ผ่าน Social Media คือ สามารถวัดผลได้ว่าช่องทาง หรือ รูปแบบการทำการตลาด ช่องทางใดได้ผลจริง ผ่านการดูยอดView ยอดไลค์ ยอดแชร์ และการสอบถามลูกค้า ว่าเขาเห็นเรา หรือติดต่อเรา ผ่านช่องทางไหน ถ้าหากยังไม่มีคนสนใจ ก็สามารถปรับแผน เปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นชื่อหัวข้อ รูปภาพ หรือราคาได้ตลอดเวลา