แน่นอนว่าตอนนี้หลายคนกังวลว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน เศรษฐกิจเป็นช่วงเงินเฟ้อสูงขึ้น ดอกเบี้ยเป็นช่วงขาขึ้น 
ธนาคารหลายธนาคาร ได้เริ่มเปลี่ยนมาใช้ดอกเบี้ยแบบลอยตัวแล้ว แล้วมันจะส่งผลกระทบอะไรกับสินเชื่อกู้บ้านบ้าง 
ครูส้มจะมาแกะให้ในบทความนี้ 
#อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (MRR,MLR) สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามสภาวะเศรษฐกิจ ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคารกำหนด (ไม่เท่ากัน) อัตราดอกเบี้ยลอยตัว ธนาคารสามารถปรับเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ยได้ ตามสภาพเศรษฐกิจและนโยบายทางการเงินของธนาคาร จะปรับเมื่อไหร่หรือปีละกี่ครั้งไม่ได้ถูกกำหนดไว้ ซึ่งการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยจะมีผลกระทบทันทีต่อ
1. งวดผ่อนชำระต่อเดือน
2.วงเงินกู้ที่ได้
- งวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงขึ้น
#ดอกเบี้ยลอยตัวมีผลทำให้งวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงขึ้นจากเดิม ปกติธนาคารเวลาจะคิดงวดผ่อนต่อเดือน จะใช้อัตราดอกจริงบวก2ถึง3% เพื่อคำนวณงวดผ่อนต่อเดือน (เผื่อการปรับตัวของดอกเบี้ยในอนาคต) ทำให้ธนาคารส่วนใหญ่ คิดงวดผ่อนอยู่ประมาณ ล้านละ 6,000-7,000 เมื่อกู้ระยะเวลาเต็ม 30 ปี แต่เวลาคิดดอกเบี้ยจริง จะคิดตามที่ประกาศไว้ หรือตามสัญญากู้ที่ระบุ เช่น 2%,3%,4% เช่น ดอกเบี้ย 3% ต่อปี
ถ้ากู้เงินต้น 1 ล้าน จะเสียดอกเบี้ยประมาณ 30,000 บาท/ปี หรือ 2,500 บาท/เดือน
ดังนั้นถ้าผ่อนที่ 6,000 บาท/เดือน ก็จะเหลือตัดต้นที่ 3,500บาท/เดือน (6,000-2,500) ที่ต้องทำแบบนี้เป็นการเผื่อการปรับตัวเพิ่มขึ้น ของดอกเบี้ยในอนาคตเอาไว้ล่วงหน้า ทำให้เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นก็ไม่กระทบต่อจำนวนเงินผ่อนต่องวด (ธนาคารคำนวณเผื่อไว้ให้แล้ว) และถ้าดอกเบี้ยไม่ได้ปรับขึ้นเท่ากับว่า เราชำระเงินเกินไว้ตลอด ทำให้เวลาผ่อนจริงสามารถผ่อนหนี้ หมดก่อนกำหนดสัญญา อาจจะเหลือเพียง 25 ปี จากสัญญา 30 ปี แต่โดยปกติหลังจากเราผ่อนสินเชื่อ ครบ 3 ปีไปแล้ว ดอกเบี้ยที่คิดจริง เป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว(MRR,MLR) อยู่แล้ว ทำให้คุณต้องหาวิธีลดอัตราดอกเบี้ยผ่านการ รีเท็นชั่นหรือรีไฟแนนซ์ แต่เมื่อธนาคารปรับมาใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว(MRR,MLR)ตั้งแต่ปีแรก ทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงตามสัญญาสูงขึ้น มีผลให้เวลาธนาคารคิดงวดผ่อนก็จะสูงขึ้นจากเดิม 500-1,000 บาท/เดือน/วงเงินกู้ 1 ล้าน เช่น ถ้าจากเดิมธนาคารคิดงวดผ่อนต่อเดือนที่ล้านละ จาก 6,000 บาท จะเป็น 6,500-7,000 บาท จาก 7,000 บาท จะเป็น 7,500-8,000 บาท หรือจาก 4,200 บาท จะเป็น 4,700-5,200 บาท แน่นอนว่าถ้างวดผ่อนต่อเดือนมันสูงขึ้น ในขณะที่รายได้คุณเท่าเดิมกระแสเงินสด(Cash Flow)ของคุณจะตึงขึ้น
บางคนถ้าไม่ได้เตรียมตัวรับมือมาดีๆ คุณอาจจะกระแสเงินสดติดลบได้เลย จนอาจจะผ่อนบ้านไม่ไหวกลายเป็นหนี้เสีย(NPL) และถูกบังคับขายทอดตลาดในที่สุด#เดี๋ยวบทความหน้าครูส้มจะมาให้วิธีการรับมือจัดการกับปัญหานี้ถ้าอยากรู้ช่วยแชร์บทความนี้กันเยอะๆครูจะได้รู้ว่ามีคนสนใจ 
ครูส้มจะพาไปต่อที่ผลกระทบข้อที่ 2 ละนะคะ ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นผลต่อเนื่องแบบโดมิโน่มาจากข้อ
- งวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงขึ้น
- วงเงินกู้ลดลง(จากรายได้เท่าเดิม)
#ดอกเบี้ยแบบลอยตัวทำให้งวดผ่อนต่อเดือนสูงขึ้นแล้วยังมีผลทำให้วงเงินกู้ลดลงจากรายได้ที่เท่าเดิมอีกด้วย ไปค่ะครูส้มจะทำให้ทุกคนตาสว่างทันทีที่อ่านจบ เราจะท้าวความไปที่งวดผ่อนที่เพิ่มขึ้นจากเดิม หลังจากดอกเบี้ยลอยตัวแล้วทำให้งวดผ่อนต่อเดือนของธนาคารเพิ่มขึ้นจากเดิม จาก 6,000 บาท จะเป็น 6,500-7,000 บาท จาก 7,000 บาท จะเป็น 7,500-8,000 บาท หรือจาก 4,200 บาท จะเป็น 4,700-5,200 บาท
เรามายกตัวอย่าง ถ้าคุณมีรายประจำเดือนละ 25,000 บาท ธนาคารให้คุณเป็นหนี้ได้ที่ 50%(%DSR) นั่นคือ คุณสามารถเป็นผ่อนต่อเดือน ได้ไม่เกิน 12,500 บาท ถ้าคุณไม่มีภาระในบูโรเลย (ภาระเก่า=0) กู้เต็มระยะเวลา 30 ปี คุณจะสามารถกู้ได้วงเงิน = (12,500 x 1,000,000)/6,000 = 2,080,000 ล้าน กรณีที่งวดผ่อนต่อเดือนเป็น 6,000 บาท/วงเงินกู้ 1 ล้าน แต่ถ้าธนาคารปรับงวดผ่อนต่อเดือนขึ้นตามดอกเบี้ยลอยตัวที่สูงขึ้นเป็น งวดผ่อนต่อเดือน 7,000 บาท/วงเงินกู้ 1 ล้าน
เงื่อนไขทุกอย่างแบบเดิม
ถ้าคุณมีรายได้ 25,000 บาท/เดือนเท่าเดิม ธนาคารให้คุณเป็นหนี้ได้ที่ 50%(%DSR) นั่นคือ คุณสามารถเป็นผ่อนต่อเดือน ได้ไม่เกิน 12,500 บาท ถ้าคุณไม่มีภาระในบูโรเลย (ภาระเก่า=0) กู้เต็มระยะเวลา 30 ปีคุณจะสามารถกู้ได้วงเงิน = (12,500 x 1,000,000)/7,000 = 1,785,000 ล้าน กรณีที่งวดผ่อนต่อเดือนเพิ่มสูงขึ้น จาก 6,000เป็น 7,000 บาท/วงเงินกู้ 1 ล้าน ทำให้วงเงินกู้เคสนี้ลดลงจาก 2,080,000 บาท เป็น 1,785,000 บาท วงเงินกู้ลดลง 295,000 บาท โดยที่รายได้และภาระเท่าเดิม แต่งวดผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น เพียงล้านละ 1,000 บาท
#นั้นคือรายได้และภาระเท่าเดิมแต่วงเงินกู้ลดลงหลักหลายแสนเลยทีเดียว
มาถึงคุณตรงนี้ใครโคตรเข้าใจ พิมพ์บอกครูส้มหน่อยว่า “โครตคัมภีร์” 
แล้วถ้าบทความนี้แชร์เกิน 100 แชร์ บทความหน้าครูส้มจะมาขยี้ วิธีการรับมือกับดอกเบี้ยลอยตัว แบบที่คุณทำได้จริง และไม่ต้องกังวลกับมันอีกต่อไป
ครูส้มส้ม
